วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ชนิดของ field ในตาราง mysql

VARCHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร ทุกครั้งที่เลือกชนิดของฟิลด์เป็นประเภทนี้ จะต้องมีการกำหนดความยาวของข้อมูลลงไปด้วย ซึ่งสามารถกำหนดค่าได้ตั้งแต่ 1 - 255 ฟิลด์ชนิดนี้ เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลสั้นๆ เช่น ชื่อ นามสกุล หรือหัวข้อต่างๆ เป็นต้น... ในส่วนฟิลด์ประเภทนี้ จะสามารถเลือก "แอตทริบิวต์" เป็น BINARY ได้ โดยปกติแล้วการจัดเรียงข้อมูลเวลาสืบค้น (query) สำหรับ VARCHAR จะเป็นแบบ case-sensitive (ตัวอักษรใหญ่ และเล็กมีความหมายแตกต่างกัน) แต่หากระบุ "แอตทริบิวต์" เป็น BINARY ปุ๊บ การสืบค้นจะไม่คำนึงตัวอักษรว่าจะเป็นตัวใหญ่ หรือตัวเล็ก

CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ ก็จะเรียงข้อมูลแบบ case-sensitive เว้นแต่จะกำหนดแอตทริบิวต์เป็น BINARY ที่จะทำให้การเรียงข้อมูลเป็นแบบ non case-sensitive เช่นเดียวกับ VARCHAR

TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร ซึ่งมองเผินๆ ก็ไม่ต่างกับเก็บลงฟิลด์ประเภท CHAR หรือ VARCHAR(255) เลย แต่จริงๆ มันต่างกันตรงที่ มันทำ FULL TEXT SEARCH ได้

TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ

MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร

LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร

TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น UNSIGNED หรือ UNSIGNED ZEROFILL โดยจะมีความแตกต่างดังนี้
  • UNSIGNED : จะหมายถึงเก็บค่าตัวเลขแบบไม่มีเครื่องหมาย แบบนี้จะทำให้สามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ 0 - 255
  • UNSIGNED ZEROFILL : เหมือนข้างต้น แต่ว่าหากข้อมูลที่กรอกเข้ามาไม่ครบตามจำนวนหลักที่เรากำหนด ตัว MySQL จะทำการเติม 0 ให้ครบหลักเอง เช่น ถ้ากำหนดให้ใส่ได้ 3 หลัก แล้วทำการเก็บข้อมูล 25 เข้าไป เวลาที่สืบค้นดู เราจะได้ค่าออกมาเป็น 025
หากไม่เลือก "แอตทริบิวต์" สิ่งที่เราจะได้ก็คือ SIGNED นั่นก็คือต้องเสียบิตนึงไปเก็บเครื่องหมาย บวก/ลบ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้อยู่ในช่วง -128 ถึง 127 เท่านั้น

SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT

MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT

BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 18446744073709551615 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT

FLOAT[(M,D)] : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต คือมีค่าตั้งแต่ -3.402823466E+38 ไปจนถึง -1.175494351E-38, 0 และ 1.175494351E-38 ถึง 3.402823466E+38

DOUBLE[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308

DECIMAL[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
ข้อสังเกต เกี่ยวกับข้อมูลประเภท FLOAT, DOUBLE และ DECIMAL ก็คือ เวลากำหนดความยาวของข้อมูลในฟิลด์ จะถูกกำหนดอยู่ในรูปแบบ (M,D) ซึ่งหมายความว่า ต้องมีการระบุว่า จะให้มีตัวเลขส่วนที่เป็นจำนวนเต็มกี่หลัก และมีเลขทศนิยมกี่หลัก เช่น ถ้าเรากำหนดว่า FLOAT(5,2) จะหมายความว่า เราจะเก็บข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม 5 หลัก และทศนิยม 2 หลัก ดังนั้นหากทำการใส่ข้อมูล 12345.6789 เข้าไป สิ่งที่จะเข้าไปอยู่ในข้อมูลจริงๆ ก็คือ 12345.68 (ปัดเศษให้มีจำนวนหลักตามที่กำหนดไว้)

DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD

DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS

TIMESTAMP[(M)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8 หรือ 6 ตามลำดับ สามารถเก็บได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ไปจนถึงประมาณปี ค.ศ. 2037

TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS

YEAR[(2/4)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069

TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์

BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KB

MEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB

LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
ข้อสังเกต ข้อมูลประเภท BLOB นั้น แม้จะมีประโยชน์ในเรื่องของการเก็บข้อมูลประเภท BINARY ให้อยู่กับตัวฐานข้อมูล ทำให้สะดวกเวลาสืบค้นก็ตาม แต่มันก็ทำให้ฐานข้อมูลมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นด้วย ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการสำรองฐานข้อมูลในกรณีที่ มีข้อมูลอัพโหลดไปเก็บมากๆ โดยปกติแล้ว จะใช้วิธีการอัพโหลดไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ แล้วเก็บลิงก์ไปยังไฟล์เหล่านั้น เป็นฟิลด์ชนิด VARCHAR มากกว่า

SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า


credit : http://tappanom.blogspot.com/2010/08/field.html



วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คำสั่ง SQL

SQL SELECT
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการเรียกดูข้อมูลในตาราง (Table) คำสั่ง SQL SELECT สามารถเรียกได้ทั้งตาราง หรือว่า สามารถระบุฟิวด์ที่ต้องการเรียกดูข้อมูลได้ 

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM [Table-Name]


Sample1 การเลือกข้อมูลที่ระบุฟิวด์

SELECT CustomerID, Name, Email FROM customer

Output 

CustomerID
Name
Email
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com


SQL WHERE 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) คำสั่ง SQL WHERE สามารถระบุเงื่อนไขในการเลือกข้อมูลได้ 1 เงื่อนไข หรือมากกว่า 1 เงื่อนไข

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM Table-Name WHERE [Field] = 'Value'

Sample1 การเลือกข้อมูลโดยใช้ Operators = (เท่ากับ) 

SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'US'
หรือ แบบ 2 เงื่อนไข ใช้ and เข้ามาเชื่อม วลี
SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'US' and Budget = '4000000'

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


SQL ALIAS 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดย ALIAS คือการสร้างชื่อจำลองขึ้นมาใหม่ โดยสามารถจำลองชื่อได้ทั้งชื่อ Field และชื่อ Table 

Database : MySQL 

Syntax

SELECT Column1 AS Alias1,Column2 AS Alias2,Column3 AS Alias3,... FROM [Table-Name1] Table Alias

Sample1 การเลือกข้อมูลตาราง customer โดยทำการ Alias เปลี่ยนชื่อฟิวด์ขึ้นมาใหม่

SELECT CustomerID AS CusID,Name AS CusName,Email AS CusEmail FROM customer

Output 

CusID
CusName
CusEmail
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com


SQL OR AND 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) การเชื่อมวลีสำหรับเงื่อนไขต่าง ๆ 

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1,Column2,Column3,... FROM [Table-Name] WHERE [Field] = 'Value' [AND/OR] [Field] = 'Value'

Sample1 การเลือกข้อมูลที่ CountryCode = US และ Used = 100000 

SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'US' AND Used = '100000'
หรือ
SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'TH' OR CountryCode = 'EN'

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000


SQL SUB SELECT QUERY 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยใช้เลือกข้อมูลย่อยภายใน SELECT ย่อยอีกชั้นหนึ่งครับSUB SELECT QUERY เข้ามาช่วยในด้านความสะดวกและง่ายกว่าการ JOIN TABLE แต่ข้อเสียของ SUB SELECT คือ สามารถทำงานได้ช้ากว่า JOIN TABLE 

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1,Column2,Column3,... FROM [Table-Name] WHERE [Field] IN (SELECT ..... FROM ....)

Sample1 การเลือกข้อมูลตาราง customer ที่เชื่อมโยงกับตาราง audit ที่มีการใช้ยอดเงินในแต่ล่ะครั้งมากกว่า 400000 

SELECT * FROM customer WHERE CustomerID IN (SELECT CustomerID FROM audit WHERE Used >= '400000')

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
US
3000000600000


SQL BETWEEN 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยทำการเลือกเงื่อนไขที่อยู่ระหว่างค่าเริ่มต้นและค่าสิ้นสุด

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1,Column2,Column3,... FROM [Table-Name] WHERE [Field] BETWEEN [Value-Start] AND [Value-End]

Sample1 การเลือกข้อมูลที่ Budget ที่มีค่าตั้งแต่ 1000000 - 3000000 

SELECT * FROM customer WHERE Budget BETWEEN '1000000' AND '3000000'

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
US
3000000600000


SQL JOIN 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยเงื่อนไขการ JOIN จะกระทำเมื่อมีข้อมูลตั้งแต่ 2 Table ขึ้นไป โดยข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่มีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับข้อมูลหลัก

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle 

Syntax

SELECT [Table-Name1].Column1, [Table-Name2].Column1,... FROM [Table-Name1],[Table-Name2]
WHERE [Table-Name1].Column = [Table-Name2].Column

Sample1 การเลือกข้อมูลแบบเชื่อมตาราง customer และ audit และ CustomerID = C001 และแสดงผลเฉพาะตาราง audit 

SELECT audit.* FROM customer,audit
WHERE customer.CustomerID = audit.CustomerID
AND customer.CustomerID = 'C001'

Output 

AuditID
CustomerID
Date
Used
1
C001
2008-08-01
100000
2
C001
2008-08-05
200000
3
C001
2008-08-10
300000


Cr : http://www.thaicreate.com/






























































วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รายงานการเรียนรู้การใช้ซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ผลงาน

ชื่อโครงงาน : ปลอดภัยใส่หมวก

สมาชิก(กลุ่มที่ 5)
นายบุณยกรณ์ อินทร์คง เลขที่ 5  
นางสาวณิชภัทร แซ่ปึ้ง เลขที่ 18
นางสาวธัญชนก ชัยรัตน์ เลขที่ 19
ชั้น ม.5/13

วิธีการดำเนินการ
  1. วางพล็อตเรื่องที่จะทำ
  2. วางคาแร็กเตอร์ตัวละคร
  3. หาสถานที่ในการถ่ายทำ
  4. ศึกษาวิธีการใช้งานโปรแกรม sony vegas pro11
  5. เริ่มทำการถ่ายทำหนังสั้น
  6. ตรวจสอบวิดีโอที่ถ่ายทำเสร็จ
  7. สร้างตัวอย่างหนังสั้นๆ
  8. ตัดต่อวิดีโอโดยใช้โปรแกรม sony vegas pro11
  9. ตรวจสอบวิดีโอเมื่อตัดต่อเสร็จและแก้ไขให้สมบูรณ์
  10. แปลงไฟล์วิดีโอ
  11. นำเสนอผลงาน
ผลการดำเนินการ

หลังจากได้ศึกษาวิธีการใช้งานของ sony gegas pro11 ก็สามารถใช้โปรแกมได้คล่องขึ้นและได้ทำสาธิตวิธีการใช้ sony gegas pro11 เกี่ยวกับเสียงลงในบล็อกได้

       ลิ้งก์วีดีโอ : http://www.youtube.com/watch?v=H0h2GZS8Ezk


แหล่งเรียนรู้


  1. ศึกษาการเขียนบทละครและการอัดวีดิโอ 
  2. ศึกษาการใช้งานโปรแกรม sony vegas pro11โดยจะศึกษาวีดืโอของคุณ smileprovideo เป็นหลัก
  3. รวบรวมข้อมูลต่างๆเช่น กฎหมายบนถนน(การไม่สวมหมวกกันน๊อค)
  4. รวบรวมสถิติการเสียชีวิตของคนบนถนนโดยที่ไมาสวมหมวกกันน๊อค



หลักฐานประกอบ



วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เทคนิคการถ่ายวีดีโอ



มุมกล้อง
การถ่ายภาพในมุมที่ต่างกัน ยังมีผลต่อความคิดความรู้สึกที่จะสื่อความหมายไปยังผู้ดูได้ เราอาจแบ่งมุมกล้องได้เป็น 3 ระดับ คือ
1.ภาพระดับสายตา คือ การถ่ายภาพในตำแหน่งที่อยู่ในระดับสายตาปรกติที่เรามองเห็น ขนานกับพื้นดิน ภาพที่จะได้จะให้ความรู้สึกเป็นปรกติธรรมดา
2.ภาพมุมต่ำการถ่ายภาพในมุมต่ำ คือ การถ่ายในต่ำแหน่งที่ต่ำกว่าวัตถุ จะให้ความรู้สึกถึงความสูงใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริง แสดงถึงความสง่า
3.การถ่ายภาพมุมสูง คือ การตั้งกล้องถ่ายในต่ำแหน่งที่สูงกว่าวัตถุ ภาพที่ได้จะให้ความรู้สึกถึงความเล็กความต้อยต่ำ ไม่มีความสำคัญ
เทคนิคการซูมและการโพกัส
1.ในขณะที่ซูมไม่ควรเดินหรือเคลื่อนไหว เพราะจะทำให้วีดีโอที่ได้มีโอกาสสั่นไหวสูง
2.หากต้องการเคลื่อนที่ด้วยขณะซูม ขอแนะนำให้ดึงซูมออกมาให้สุดก่อน แล้วค่อยกดปุ่มบันทึก จากนั้นให้เดินเข้าไปแทนการซูมเลนส์
3.อย่าสนุกกับการซูมจนมากเกินไป เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เพิ่มเริ่มเล่นกล้องมักจะชอบดึงซูมเข้า/ออก ทำให้ภาพที่ได้น่ามึนหัว เหมือนกำลังกระแทรกกำแพงโป๊กๆที่จริงแล้วการซูมจะทำเมื่อต้องการดูรายละเอียดของเหตุการณ์ เพื่อบ่งบอกเรื่องราว หรือซูมออกเพื่อแสดงภาพรวมของเหตุการณ์นั้นๆ พูดง่ายๆ จะซูมก็ควรมีเหตุมีผลมีเรื่องราวที่จะเล่าจากการซูมจริงๆ
4.ควรหยุดซูมเสียก่อนค่อยเคลื่อนไหวกล้อง หรือซูมก่อนบันทึกภาพ จุดนี้จะช่วยให้วีดีโอที่ได้น่าสนใจมากขึ้น เช่น การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในท้องทะเล อาจจะตั้งกล้องซูมเข้าไปที่เรือจากนั้นกดปุ่มบันทึก แล้วค่อยๆซูมออกมาให้เห็นท้องทะเล
การแพนกล้อง
การแพนกล้องที่ดีต้องมีจังหวะที่จะแพน คือต้องมีจุดเริ่มและจุดสิ้นสุดของการแพน จุดนี้เองคนที่อยู่เบื้องหลังคอยตัดต่อภาพทั้งหลายมันเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะตัดต่อภาพ โดยมีภาพทีแกว่งไปแกว่งมา หรือวูบวามไปมา เมื่อนำมาร้อยใส่ภาพนิ่งๆจะรู้สึกได้เลยว่าไม่เข้ากัน พลอยทำให้ดูไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่ ไม่นิ่มนวลสมจริง บางครั้งรู้สึกว่าโดดไปโดดมา หากจะให้ตัดต่อได้สะดวกและภาพสมบูรณ์ การแพนจะต้องมีจุดเริ่ม คือเริ่มจากถือกล้องให้นิ่งเสียก่อน จากนั้นกดปุ่มบันทึกภาพแล้วค่อยแพน และจุดจบ คือนิ่งทิ้งท้ายตอนจบอีกเล็กน้อย เพื่อบอกคนดูให้เตรียมพร้อมและพักสายตาระหว่างชมภาพ
การบันทึกเป็นช็อต
“ช็อต” คือการเริ่มบันทึก เพื่อเริ่มเทปเดินและเริ่มบันทึกลงม้วนเทป จนกระทั่งกดปุ่ม Rec อีกครั้ง เพื่อเลิกการบันทึก แบบนี้เค้าเรียกว่า 1 ช็อต การถ่ายเป็นช็อคไม่ควรปล่อยให้ช็อตไม่ควรปล่อยให้ช็อตนั้นยืดยาวไปนัก คือไม่ควรเกิน 5 วินาทีต่อ 1 ช็อต

Cr: http://krubeenan.wordpress.com/2012/07/27/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD/
http://s2.favim.com/orig/33/camera-photography-vintage-Favim.com-268188.jpg

การเขียนบทภาพยนตร์จากเรื่องสั้น

       การเขียนบทอาจเป็นเรื่องที่นำมาจากเรื่องจริง เรื่องดัดแปลง ข่าว เรื่องที่อยู่รอบ ๆ ตัว  นวนิยาย   เรื่องสั้น หรือได้แรงบันดาลใจจากความประทับใจในเรื่องราวหรือบางสิ่งที่คนเขียนบทได้สัมผัส เช่น ดนตรี บทเพลง บทกวี ภาพเขียน และอื่น ๆ หรืออะไรที่ทำให้เกิดความคิด จินตนาการ การสร้างสรรค์ คือการนำเรื่องราวมาประสมประสานกันให้เป็นเรื่องขึ้นมา ความพยายามเท่านั้นทำให้เกิดความสำเร็จ  ขอให้ศึกษาในบทภาพยนตร์ต่อไป




Cr : 
http://joynaka23.wordpress.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A0
http://webneel.com/daily/sites/default/files/images/daily/02-2013/5-winter-baby-photography.jpg

ขั้นตอนในการถ่ายภาพยนตร์สั้น



1.หาองค์ประกอบด้านวิธีการ คือ หลักการ การวางแผน การถ่ายทำ การตัดต่อ การประเมินผล
2.หาองค์ประกอบด้านบุคลากร คือ บุคลากรในหน้าที่ต่างๆตั้งแต่ ตัวละคร บุคคลทางเทคนิค รวมไปถึง ผู้มีความสามารถเฉพาะครับ จะดีมากๆ และอีกอย่างคือทีมเวิค
3.เตรียมการผลิต คือ วางแผน เตรียมสถานที่ บท อุปกรณ์ ให้ครบ
4.บทหนัง คือ วางบท คำพูด ระยะเวลาสถานที่ เรื่องราว ที่จะสื่อออกมา บทจะมีหลายแบบ
- บทแบบสมบูรณ์  ประมาณว่า เก็บทุกรายละเอียดทุกคำพูดครับ
- บทแบบอย่างย่อ ประมาณว่า เปิดกว้างๆให้ผู้ชมสังเกตในความเข้าใจของตนเอง
- บทแบบเฉพาะ
- บทแบบร่างกำหนด
5.การผลิต อย่างแรกเลย แต่ละฉากคุณต้องเลือกมุมกล้องให้เหมาะสม กับสภาพอากาศ ขนาดวัตถุ ว่าควรเห็นแค่ไหน  ขนาดมุมกล้องมีหลายแบบนะเยอะมาก  รวมๆมีแบบ ระยะไกลมาก ระยะไกล ระยะปานกลาง ระยะใกล้
6.ค้นหามุมกล้อง
- มุมคนดู ประมาณว่า เป็นมุมถ่ายจากรอบนอกของฉากนั้นๆ เหมือนผู้ชมเป็นคนสังเกตฉากนั้นๆ
- มุมแทนสายตา
- มุมพ้อยออฟวิว เป็นมุมที่สวยมากในการทำหนัง เป็นมุมที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ เช่น การถ่ายข้ามไหล่ของตัวละคร หรือวัตถุ
 7.การเคลื่อนไหวของกล้อง
- การแพน การทิลท์ ประมาณว่า การทำเคลื่อนไหวกล้องให้เห็นตำแหน่งวัตถุนั้นสัมพันกัน
- การดอลลี่ การติดตามการเคลื่อนไหวเลย
- การซูม เป็นการเปลี่ยนองค์ประกอบภาพ เหมือนเน้นความสนใจในจุดๆหนึ่ง
8.เทคนิคการถ่าย
เอาเป็นว่าจับกล้องให้มั่นนะ เช่น แบบกระชับกับตัวเลย คือแขนทั้งสองข้างแนบตัวเลยและก็ไม่แนะนำให้เคลื่อนไหวกล้องแบบรวดเร็วน กล้องจะปรับโฟกัสไม่ทัน ทำให้ภาพเบลอ
9.หลังการผลิต ก็ต้องตัดต่อ เพิ่มเสียง เอ็ฟเฟก ความคมชัด ความเด่นชัดเรื่อง อักษรหนังสือ
10.การตัดต่อ
1.จัดลำดับภาพ และเวลาให้ตรงและเหมาะสม อันไหนเกินยาวก็ให้ตัดทิ้งครับอย่าให้ขัดอารมณ์
2.คือจัดภาพให้เหมาะสม เนื้อหาและโครงเรื่องที่เราวาง
3.แก้ไขข้อบกพร่อง
4.เพิ่มเทคนิคให้ดูสวยงาม

Cr: http://joynaka23.wordpress.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A0/
http://images.fineartamerica.com/images-medium-large/vintage-suitcase-carmen-moreno-photography.jpg

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หนังสั้นคืออะไร?





      ภาพยนตร์สั้น หรือ หนังสั้น (อังกฤษShort film, หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Short) เป็นประเภทของภาพยนตร์อย่างหนึ่งที่เหมือนกับภาพยนตร์ทั่วไป ที่เล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงเฉกเช่นภาพยนตร์ความยาวปกติ เพียงแต่ว่าเป็นการเล่าเรื่องประเด็นสั้น ๆ หรือประเด็นเดียวให้ได้ใจความ มาตรฐานของภาพยนตร์สั้น คือ มีความยาวเต็มที่ไม่เกิน 40 นาที
      สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกเกิดขึ้นในสมัยของรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ความยาว 1 นาทีโดยช่างภาพของบริษัทลูมิแอร์ (Lumiere) ของฝรั่งเศส ผู้ผลิตและพัฒนากล้องถ่ายภาพยนตร์สำคัญรายหนึ่งของโลก
       ปัจจุบัน ภาพยนตร์สั้นได้รับความสนใจและตื่นตัวอย่างมาก มีผู้สร้าง ผู้ผลิตหลายรายมากขึ้น และในการแจกรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 80 ในปี ค.ศ. 2012 ที่เป็นการแจกรางวัลให้แก่ภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 2011 ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่มีการแจกรางวัลให้แก่ภาพยนตร์ประเภทนี้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น 2 รางวัล คือ ภาพยนตร์สั้น (Live Action) และแอนิเมชั่นสั้น (Animated)

Cr : http://guy038.blogspot.com/